something2live4

something to live for, what is it ? am i working on the public space ? nevermind because even the sun does not know it's a star

My Photo
Name:
Location: melbourne, victoria, Australia

I'm a designer maybe

Wednesday, October 26, 2005

สองสามวันที่ผ่านมา

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มีเรื่องให้ขบคิดและไตร่ตรองอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ฤดูงานหลากได้ผ่านเข้ามาและผ่านออกไป ซึ่งฤดูงานหลากที่ผ่านไปนั้นถือว่าเป็นส่วนที่ช่วยให้ตัวเองได้ขยับขยายผายปอดเพื่ออัดอากาศให้เกิดแรงในการว่ายน้ำในบ่อที่มีแต่นักว่ายน้ำที่ว่ายวนเวียนกันอยู่นับไม่ถ้วน แต่นับว่าโชคดีที่ยังพอมีที่ให้เราได้เอาขาไปจุ่มแล้วตีให้ตัวเปียกพอประมาณถึงแม้จะไม่เปียกสะใจเหมือนคนอื่นเขาแต่เราจะไปเปรียบเทียบกับใครทำไม เอาเป็นว่าถือเป็นเรื่องที่ดีที่น่าพอใจ

ไทยโปกราฟฟิก้า ยังมีงานที่ต้องสะสาวอยู่อีกสองชิ้น คือหนึ่ง เวปไซด์ของสตูดิโอแห่งหนึ่งรวมถึง ซีดี รอม ของที่เดียวกัน ซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นงานชิ้นสุดท้ายของปีนี้แล้ว เคยตามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ทำไมต้องรับเป็นชิ้นสุดท้ายของปีละ คำตอบที่ได้มักจะกลับมาเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า เราต้องไม่ลืมทำงานอยากที่เราทำเพราะในเมื่อเรารู้ว่าเราอยากทำอะไรและเราทำได้ดี ทำไมเราไม่ทำ ทำไมปีที่แล้วทำได้ แล้วทำไมปีนี้ทำไม่ได้ เราเลยตัดสินใจว่าหยุด (เพราะเอาเข้าจริง มันยังมีงาน world animation & cartoon festival ที่ค้างอยู่) แล้วหันกลับมาเพราะวันนี้ยังมีแรงที่จะทำอะไรเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ เพราะอีก 5 ปีข้างหน้าอาจจะเกินกำลังด้วยสถานภาพต่างๆที่เปลี่ยนไปมากกว่านี้

จริงๆแล้วส่วนหนึ่งต้องขอบคุณคนกลุ่มหนึ่งที่ชักชวนให้ผมผลิตงานศิลปะเพื่อสังคมที่จะจัดกันในปีหน้ามา ณ ตรงนี้ เพราะส่วนหนึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันอยู่ในสังคม ทุน+วัตถุนิยมมากเกินพอดีอยู่แล้ว อย่าให้มันเสียศูนย์ไปมากกว่านี้เลย แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่ไปยึดมั่นถือมั่นอะไรนัก เพียงแต่ผมก็ไม่ได้ไปมีความต้องการเรื่องเงินมากจนตัวเองรู้สึกทุกข์ (ถึงแม้ว่าคนรอบข้างจะบ่นเหลือเกิน) เพียงแต่พยายามเดินสายกลางหรืออย่างน้อยเรียกว่าพอดีพอดีก็ไม่ผิดอะไร ทำงานทุกข์วันนี้ เพื่อให้เข้าใจในสังคมที่เราอาศัยอยู่แต่ทำงานศิลปะ เพื่อให้เราเข้าใจสิ่งที่เราสนใจและอย่างน้อยมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นอะไรบางอย่างเพื่อไปจุดประกายคนรุ่นหลังให้ต่อยอดและพัฒนาไปไกลแสนไกล แล้วทำไมเราถึงไม่ทำละ ในเมื่อเราทำได้และให้ได้ ทำไมละ ทำไมเราไม่ทักันบนท้องถนน เพราะว่าเราไม่รู้จักกันเท่านั้นเหรอ

จุดประสงค์ของคนถ้ารู้คงเปลี่ยนได้ยาก แต่ถ้าไม่รู้ก็คงจะเรียกว่าไม่มีหรือสับสน

0 Comments:

Post a Comment

<< Home