something2live4

something to live for, what is it ? am i working on the public space ? nevermind because even the sun does not know it's a star

My Photo
Name:
Location: melbourne, victoria, Australia

I'm a designer maybe

Saturday, June 06, 2009

เวลาเดิมๆ กับเวลา


เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หรือเมื่อสอวันก่อนมหาวิทยาลัยเปิดเทอมอีกครั้ง เวลาแห่งการสอนหนังสือกลับมาให้ได้ชื่นชมกันอีกครั้ง ผมสนุกทุกครั้งในเวลาที่ไปสอนหนังสือ เพราะนอกจากจะได้เจอความรู้สึกเก่าๆกับอาจารยืที่สอนผมมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมจบปี 1999 มาปีนี้ 2009 ความรู้สึกเก่ามันกลับมาอีกครั้ง มาคราวนี้ความรู้สึกดีดีมันมีมากกว่าเดิมนะ เพราะได้เจอกับอาจารย์ท่เรียกได้ว่าเคารพและศรัทรในความเชื่อและมีคงามเป็นอาจารย์อยู่ในสายเลือดทั้งในเชิงวิชาการและในเชิงการดำเนินงานสายอาชีพ มาวันนี้ผมเองลูกศิษย์ของอาจารย์ได้กลับมาช่วยอาจารย์ทั้งสองในเวลาเดียวกันรู้สึกเป็นเกียรติครับ ทั้ง อ.ยศ ผู้ที่เป็นเหมือนพี่ชายที่คอยผลักดันให้ผมทำอะไรต่อมิอะไร ตามใจผม และ อ.สุชาติ ผู้ที่เป็น โรลโมเดลทางด้านการศึกษาของผม และเป็นคนแรกที่เปิดโลกของงานออกแบบสมัยใหม่ให้กับผม ยินดีที่ได้กลับมาเจออาจารย์อกครับ ผมยังจำได้ว่าสมัยผมเข้าไปเรียนที่มหาลัยครั้งแรกต้องมีการสอบสัมภาษและ อ.ชาตินี่เองที่เป็นคนที่สัมภาษณ์ผมเข้าเรียน แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้รู้จัก อ.ยศ ผู้ที่เปิดโลกแห่งความสนุกให้กับผมในหลายๆด้าน ผ่านไปแล้วสิบปีทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่สถานที่และวันเวลาที่ผ่านไป ความรู้สึกมันแปลกนะเวลาสมัยก่อนขับรถไปเรียนกับ อาจารย์ แต่เวลานี้ขับรถไปสอนกับอาจารย์ เวลาสิบปี มันไม่ได้เร็วเหมือนที่คำคนว่าไว้หรอกผมว่า เวลาสิบปีชีวิตผมผ่านอะไรมาเยอะทีเดียว ทำงานกับหลายบริษัท ทั้งเป็นลูกจ้าง หรือพอเป็นเจ้าของก็ดีลธุรกิจกัน พบเจอคนใหม่ๆที่ชอบงานออกแบบเหมือนๆกัน พบคนเลวๆที่เกาะคนอื่นรวย พบสัจธรรม บางด้านของธุรกิจก็ดีจนปลื้มไม่หยุด บางด้านของธุรกิจก็ล้มเพราะลมไม่พัดเลยเมื่อยตาย คุณพ่อจากไปไม่กลับมา นัชโช่โตเข้าสองขวบครึ่ง เกรซกับเกล โตขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่ยังบ่านเหมือนเดิม พี่สาวแต่งงานกันหมด ผมไปอยู่ต่างประเทศซะครึ่งหนึ่งของจำนวนสิบปี ได้ทำงานหลากหลายประเภท ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างเต็มที ได้เจอผู้ร่วมงานที่ดีมากและน่าถุยนํ้าลายใส่ มีคนที่รักเรามากขึ้น พอพอกับคนที่นินทาหรือไม่ชอบเรา ได้รู้ว่าการหักหลัง แทงข้างหลัง พูดลับหลัง ให้ร้าย ป้ายสี หรือการอโหสิกรรมกับคนโง่แต่อวดฉลาดเป็นยังไง หรือแม้แต่การมีบริษัทที่ตัวเองอยากจะมีแบบนี้ และมีหลานชายที่ผมไม่ค่อยได้ดูแลคือเจ้าจีน

ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ผมคงใส่ไปไม่หมด เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาจะมาเล่าให้ฟัง การไปสอนหนังสือของผมก็ยังเป็นเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นเสมอๆ ผมเองรักการสอน แต่ผมเองก็ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้สอนเก่งไปกว่าอาจารย์ทั้งสองท่าน แถมยังค่อนข้างจะสนุกเกินไปด้วยกระมัง จริงๆจะว่าไปการไปสอนในเทอมนี้ เมหือนกับการได้กลับมาเจอคนที่คุ้นเคย ความรู้สึกผูกพันธ์ หรือได้พบเจอกับสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพ มากกว่าครั้งไหนๆ เอาเข้าจริงๆระยะเวลามันพิสูจน์คุณภาพของคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การก้าวกระโดดอาจจะเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก แต่การรักษาระยะ ตัวเองให้ถึงจุดหมายน่าจะยากที่สุด ถามว่าจุดหมายคืออะไร อืมมมมมมมมม ทุกวันนี้ก็ยังหาไม่เจอนะ ใครจะไปรู้ละ เอาหน่าลองนึกดูว่าจุดหมายคืออะไร หรือไม่ก็สมมติเอาก็ได้ เห้อจะตอแยไปถึงไหน งั้น ขอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมละกัน จริงๆ ไม่ได้จะมาพูดเล่นๆ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home