something2live4

something to live for, what is it ? am i working on the public space ? nevermind because even the sun does not know it's a star

My Photo
Name:
Location: melbourne, victoria, Australia

I'm a designer maybe

Friday, May 29, 2009

ไม่มีชื่อเรื่องที่แน่นอน


การที่จะมานั่งเขียนเรื่องชีวิต เป็นฉากๆนั้นสำหรับผมเองนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะมานั่งเกลาคำให้ไพเราะสวยงามเหมือนสมุดบันทึกการทดลองของท่านมหาอมตะชีววิทยา ดาร์วิน แต่การที่จะประคับประคองให้ชีวิตพบเจอแต่สิง่สวยงามบางครั้งก็ต้องทำตัวแกล้งลืมอะไรบางอย่าง เพียงเพื่อให้ตัวเรามีเวลาสร้างสรรค์สิ่งรอบๆตัวให้สวยงามตามใจฉัน หลายๆเวลาในช่วงนี้ผมพบเจอกับบุคคลหลากหลายที่เดินมาเจอทางแยก และที่สำคัญคือมักจะเดินมาคนเดียว คือไม่บยอมพาเพื่อนที่ชื่อว่าตัวตนมาตัว เลยเหลือแต่เพียงตัวเองเดี๋ยวๆ ที่คอยมองหาคำตอบที่ไม่มีวันหาเจอ หลายๆครั้งมักจะได้ยินคำตอบง่ายๆว่า เลือกได้ ชีวิตมันเลือกได้ แต่จริงๆแล้วมันเลือกได้แค่ไหนกันเชียว มีข้อจำกัดเยอะแยะไปหมดในสถาพสังคมทุกวันนี้ ผมว่าผมเป็นอีกคนหนึ่งที่พยายามหนีจากสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัว แต่ไม่ใช่การที่จะต้องทำอะไรที่แตกต่าง หรือผิดแปลกไปจากสิ่งรอบตัว แล้วผมเองก็ไม่มีการกรอบด้วยว่า มันจะเป็นอะไร แล้วก็พยายามจะไม่ใช้คำว่า ก็ทำไปเรื่อยๆ หรือก็ไม่รู้จะทำอะไร หรือก็ชอบทำแบบนี้ สิง่เหล่านี้มันเป็นเหมือนคำตอบที่ไม่เคารพตัวเอง แล้วนำความรู้สึกมาเป็นคำตอบ อันนี้เราไม่ได้พูดว่าเท่ห์ ไม่เท่ห์นะ เราพูดกันถึงเรื่อง การคำนวนวิธีการค้นหาตัวเอง

ผมไม่เคยคิดว่าการค้นหาตัวเองเป็นเรื่องยาก ไม่เคยคิดว่าคนเราจะไม่มีงานทำ ไม่เคยคิดว่าเวลาควรจะแบ่งให้กิจกรรมต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม สิง่เหล่านี้เหมือนเราโดนอุปโลกว่ามันคือ และมันเป็น ผมถามตัวเองทุกวันว่าผมต้องการอะไร หรือถามง่ายๆว่าเอออยากจะทำอะไร คำตอบมันก็มีมากมายให้เราเลือกไม่รู้จบ แต่การที่จะถามว่ามันอยู่ที่ว่าชอบแล้วทำได้มั้ยนั้น ผมเองกลับมองว่าทำได้หรือไม่ได้มันอยู่ที่ความพยายามและการฝึกฝน ผมเชื่อเสมอว่าผมเองไม่ใช่คนที่เอาถ่านอะไร ไม่ได้มี ความสามารถอันใดโดดเด่น หน้าตาก็ไม่ได้หล่อเหมือนพระเอกหนัง หรือเสียงดีเหมือนนักร้อง หรือแม้แต่ไม่ได้เท่ห์เหมือนดีไซเน่อที่เดินเตะฝุ่นกันเกลือ่นเมือง แต่ผมว่าผมเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการที่จะนำความรู้จากการอ่านมาปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เราควรจะไปอยู่ ผมเชื่อว่าสังคมกำลังจะสูญเสียบุคคลากรทางด้านการวิเคาระห์ บุคคลากรทางด้าน ความเข้าใจโดยไม่แบ่งฝ่าย หรือไม่ยึดติด โลกพยายามจะให้ทุกๆคนหาตัวตน ดังนั้น marketing แบบ ตัวตน ตัวกู เป็นตัวเอง สำหรับผมแล้วแม่งไร้สาระมาก เพราะว่าขนาดมึงจะเป็นตัวเองยังต้องให้คนมาบอกให้มึงเผ็นตัวเองหาตัวเองให้เจอ หรือสะท้อนความเป็นคุน อะไรๆก็มีคนมาบอก จะอาบนํ้าก็บอกว่าใช้เหมือนผมสิแล้วหน้าจะหอม หรือใช้แบบนี้สิบางจนไม่รู้สึก หรืออะไรอีกหลากหลายที่จะบรรยายมาเพื่อให้คุณดูหน้าตาดีขึ้น ดูขาวขึ้น ดูเท่ห์ขึ้น เพื่อให้คุณดูมั่นใจขึ้น ในทางกลับกัน มันทำให้เราเห็นคนไม่มั่นใจ หรือคนที่วิง่ตามหาตัวเองเป็นกองทัพจากคำตอบที่เราถามว่าอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร ชอบอะไร หรืออะไรอะไรอะไรอะไร สุดท้ายเก้าในสิบบอกว่าก็ดูๆไปก่อน ยังอยากลองว่าชอบอะไร ยังไม่แน่ใจ หรือไม่รู้สิ ครับใช่ครับนี่แหละครับ สังคมแห่งการบริโภคจนไม่ทันได้หายใจ ไม่ทันได้นั่งคิดเหมือนคนมีสติ หรือไม่ทันได้มองตีนตัวเอง และไม่รู้ว่าความเจ็บปวด อดทน ฝึกฝน มันเป็นยังไง ถ้าเจอก้ยินดี แต่ถ้าไม่เจอก็แน่นอนว่าคุณยังเทห์อยู่เสมอ เพราะยังคิดอยู่ว่าชอบอะไร เท่ห์วะ

ปล พอดีไปอ่านเจอแบนเน่ออันหนึ่งชอบมาก เขียนไว้ว่า จุดยืนของพวกเราทุกคนคือ ส้นตีน อ่านแล้วสะเทือนดี ชอบ

1 Comments:

Blogger Unknown said...

ห้าห้าห้า ชอบ.....

แอบคิดกะตัวเองเบาๆเหมือนกันว่า marketing เหมือนอะไรซักอย่างที่คอยจูงคน เลยมีหลายๆคนที่หลงทางเพราะ marketing นี่แหละ แต่พูดเสียงดังไม่ได้เพราะเราเรียน marketing ฮาาาาา

8:58 PM  

Post a Comment

<< Home